เรอัล มาดริด รับเงินสูงสุดในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก โกยไปแล้วกว่า 86 ล้านดอลลาร์
เรอัล มาดริด กลายเป็นสโมสรที่ทำรายได้สูงสุดจากการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก (FIFA Club World Cup) ประจำปีนี้
หลังจากเอาชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ไปแบบหวุดหวิด 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
จากรายงานของ BeIN Sports ระบุว่า ทัพ “ราชันชุดขาว” ได้รับเงินรางวัลไปแล้วถึง 86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(ประมาณ 3,100 ล้านบาท) สำหรับการทะลุเข้าสู่รอบรองฯ ซึ่งมากกว่าปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) ที่ตามมาเป็นอันดับสองอยู่ถึง 7.5 ล้านดอลลาร์
ผลงานอันยอดเยี่ยมของมาดริดในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่
ชาบี อลอนโซ่ ที่พาทีมเก็บชัยได้ถึง 4 นัด เสมอ 1 นัด จาก 5 เกมที่ลงสนามตั้งแต่เริ่มการแข่งขันในสหรัฐอเมริกา
สำหรับลำดับการทำรายได้ ณ ขณะนี้ อันดับ 1 คือ เรอัล มาดริด ตามด้วย PSG (78.5 ล้านดอลลาร์),
ฟลูมิเนนเซ่ (61 ล้านดอลลาร์), เชลซี (59 ล้านดอลลาร์) และบาเยิร์น มิวนิก (57 ล้านดอลลาร์)
สโมสรดังอื่นๆ ที่ติดท็อปเท็นรายได้รวม ได้แก่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้,
อินเตอร์ มิลาน, พัลไมรัส และ อัล ฮิลาล จากซาอุดีอาระเบีย โดยรวมกันทั้งทัวร์นาเมนต์มีรายได้แจกไปแล้วมากกว่า 560 ล้านดอลลาร์
หากเรอัล มาดริดสามารถเอาชนะ PSG ในรอบรองชนะเลิศได้ จะรับเงินเพิ่มอีก 30 ล้านดอลลาร์
และหากคว้าแชมป์ พวกเขาจะได้โบนัสพิเศษอีก 40 ล้านดอลลาร์ รวมเป็น 117 ล้านดอลลาร์
หรือราว 4,200 ล้านบาท ทำให้ทัวร์นาเมนต์นี้กลายเป็นหนึ่งในรายการที่สร้างรายได้สูงที่สุดในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน.