โคลอี้ เคลลี่ ฮีโร่ทีมชาติอังกฤษ กล่าวขอบคุณ “คนที่เคยมองข้ามเธอ” หลังโชว์ฟอร์มสุดเฉียบ
พาทัพ “สิงโตสาว” คว้าแชมป์ยูโร 2025 ด้วยการเอาชนะทีมชาติสเปนในช่วงดวลจุดโทษ 3-1 ในนัดชิงชนะเลิศที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ในเกมดังกล่าว สเปนเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนจาก มารีโอนา กัลเดนเตย์ แต่ อังกฤษไล่ตีเสมอได้จากลูกโหม่งของ
อเลสเซีย รุสโซ ในนาทีที่ 57 ซึ่งมาจากการเปิดบอลอย่างแม่นยำของโคลอี้ เคลลี่ ที่เพิ่งลงสนามมาแทน ลอเรน เจมส์ ที่เจ็บซ้ำจากเกมก่อนหน้า
เกมจบลงในเวลา 120 นาทีที่สกอร์ 1-1 ก่อนอังกฤษจะแม่นจุดโทษกว่า และเป็น เคลลี่ ที่รับหน้าที่ยิงลูกตัดสิน
ช่วยให้แชมป์เก่าป้องกันแชมป์ยูโรไว้ได้อีกสมัย กลายเป็นทีมชาติอังกฤษชุดแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้าแชมป์รายการใหญ่บนแผ่นดินต่างแดน
หลังเกม เคลลี่ เปิดใจกับสื่ออย่างสะเทือนอารมณ์ โดยเผยว่า
“มีน้ำตาไหลในตอนจบ โดยเฉพาะตอนเห็นหน้าครอบครัวของฉัน เพราะพวกเขาเป็นคนที่อยู่เคียงข้างฉัน
ในช่วงเวลามืดมนที่สุด ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่ผ่านพ้นช่วงเวลานั้นมาได้”
“ถ้าประสบการณ์ของฉันจะช่วยให้ใครสักคนที่กำลังเผชิญช่วงเวลายากลำบากรู้ว่า ‘ช่วงเวลาแย่ๆ มันไม่ถาวร’
นั่นก็ถือว่าคุ้มแล้ว เพราะอีกไม่นาน ฉันก็ได้เล่นในรอบชิงแชมเปียนส์ลีก และวันนี้ก็เป็นแชมป์ยูโรอีกครั้ง
ขอบคุณทุกคนที่เคยมองข้ามฉัน ฉันรู้สึกขอบคุณจริงๆ”
ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เคลลี่ ต้องเผชิญช่วงเวลายากลำบาก หลังไม่ได้รับโอกาสลงเล่นสม่ำเสมอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้
จนต้องตัดสินใจย้ายแบบยืมตัวไปอาร์เซนอล เพื่อเรียกฟอร์มคืน และยอมรับว่าเกือบจะเลิกเล่นฟุตบอลด้วยซ้ำ
“มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก ฉันรู้ว่าฉันเป็นมืออาชีพและตั้งมาตรฐานไว้สูง แต่ในฐานะมนุษย์
ฉันก็มีช่วงที่จิตใจแย่มาก ฉันไม่รู้อนาคตของตัวเองเลยในตอนนั้น มันมืดมนไปหมด”
เธอยังไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณ ซารีนา วีกมัน กุนซือทีมชาติอังกฤษ ที่ให้โอกาสและศรัทธาในตัวเธอแม้ช่วงที่ไม่มีความมั่นใจเลย
“เธอเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งมาก สิ่งที่เธอทำเพื่อประเทศนี้ พวกเราทุกคนควรรู้สึกขอบคุณ”
“เธอให้ความหวังกับฉันในตอนที่ฉันแทบไม่มีเหลือแล้ว เธอให้โอกาสฉันได้กลับมาใส่เสื้อทีมชาติอีกครั้ง ซึ่งไม่มีทางได้มาง่าย ๆ”
“ฉันรู้ดีว่าการติดทีมชาติมันไม่ใช่สิ่งที่ใครจะได้เสมอ ฉันต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการได้ลงเล่นต่อเนื่อง และเธอก็เชื่อมั่นในฉันจริง ๆ”
ทางด้าน วีกมัน วัย 55 ปี กลายเป็นโค้ชหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ยูโรได้ 3 สมัยติดต่อกัน
หลังเคยทำได้กับเนเธอร์แลนด์ในปี 2017 ก่อนพาทีมสิงโตสาวครองเจ้ายุโรปในปี 2022 และ 2025
“ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราทำได้อีกครั้ง มันเป็นทัวร์นาเมนต์ที่วุ่นวายสุด ๆ
ตั้งแต่เกมแรกที่เราพ่ายแพ้ จนถึงวันนี้ที่กลายเป็นแชมป์ ฟุตบอลมันโกลาหลแบบนี้แหละ แต่เราชนะ!”