แม้ว่า ไบรอัน เอ็มบูโม่ (Bryan Mbeumo) จะยังไม่ได้ลงสนามเปิดตัวให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แต่การมาถึงของเขากลับเปิดประเด็นใหม่ว่า บทบาทในทีมอาจไม่ใช่ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกอย่างที่หลายคนคาดไว้แต่แรก
บรูโน่ แฟร์นันเดส ยังแสดงให้เห็นว่าเขาคือหัวใจสำคัญของแนวรุก
หลังโชว์ฟอร์มโดดเด่นในเกมที่ “ปีศาจแดง” เอาชนะเวสต์แฮมในศึก พรีเมียร์ลีก ซัมเมอร์ ซีรีส์
โดยบรูโน่ถูกวางให้เล่นทางฝั่งขวา ขนาบข้างด้วย มาเธอุส คุนญ่า ทางซ้าย และมี แรสมุส ฮอยลุนด์ ยืนหน้าเป้า
แม้ว่าแผนระยะยาวจะเตรียมไว้ให้เอ็มบูโม่หรืออาหมัด ดิยัลโล่ มารับตำแหน่งนั้น
แต่จากฟอร์มของกัปตันทีมในเกมล่าสุด ดูจะยากที่จะมีใครมาเบียดแย่งบทบาทหลักของเขาไปได้ง่าย ๆ
นอกจากนั้น การส่งบรูโน่ถอยลงต่ำเพื่อเปิดทางให้แนวรุกหน้าใหม่อาจลดทอนอิทธิพลของเขาต่อเกม
โดยเฉพาะเมื่อกลางสนามยังมี มานูเอล อูการ์เต้ และ ค็อบบี้ เมนู ที่ต้องการพื้นที่และความสมดุล
เกมกับเวสต์แฮมก็แสดงให้เห็นว่าอูการ์เต้ยังมีข้อจำกัด หากต้องเล่นเคียงข้างกองกลางที่เน้นเกมรุกเต็มตัวอย่างบรูโน่
รูเบน อาโมริม จะต้องเจอความท้าทายทันทีในเกมถัดไปที่แมนยูจะพบเอฟเวอร์ตัน
ซึ่งอาจเป็นเกมประเดิมสนามของเอ็มบูโม่ แต่การส่งเขาลงสนามอาจต้องแลกกับการพักผู้เล่นที่ฟอร์มกำลังดี และนี่คือปัญหาหลักของการมีขุมกำลังแนวรุกที่ล้นมือ
นอกจากนี้ ยังมีคำถามว่า ถ้าแมนยูไม่สามารถเสริมกองหน้าเบอร์ 9 ได้ตามแผน หนึ่งในสามแนวรุก (บรูโน่-คุนญ่า-เอ็มบูโม่)
อาจต้องถูกโยกไปยืนหน้าเป้าชั่วคราว ซึ่งหากวิเคราะห์ตามความสามารถ บางทีการปล่อยให้ เอ็มบูโม่ รับบทเป็นวิงแบ็กขวาอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
เพราะเขามีจุดเด่นในการเจาะริมเส้นและตัดเข้าในเพื่อทำประตู
อีกหนึ่งจุดสังเกตคือ อาหมัด ดิยัลโล่ ที่ได้รับโอกาสในตำแหน่งวิงแบ็กขวาเช่นกันในเกมล่าสุด
แต่กลับโชว์ฟอร์มไม่ออก ซึ่งอาจส่งผลให้โอกาสของเขาในซีซั่นนี้ถูกจำกัดลงอย่างมาก
แม้ทีมจะมีความหลากหลายในแนวรุก แต่จากที่เห็นตอนนี้ บางทีการให้ บรูโน่
เล่นในบทบาทที่ถนัดที่สุดของเขา อาจเป็นทางเลือกที่ให้ประโยชน์สูงสุดกับทีมโดยรวมก็เป็นได้