อาร์เน่ สลอตใช้ “ไม้เด็ดเก่า” เปลี่ยนตัวมิลอช เคอร์เคซก่อนพักครึ่ง เกมลิเวอร์พูลบุกชนะเบิร์นลีย์
การตัดสินใจของอาร์เน่ สลอต ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ที่ถอดมิลอช เคอร์เคซ แบ็กซ้ายค่าตัว 40 ล้านปอนด์
ออกจากสนามตั้งแต่ครึ่งแรกในเกมพรีเมียร์ลีกกับเบิร์นลีย์ กลายเป็นประเด็นที่แฟนบอลพูดถึงอย่างกว้างขวาง
แต่แท้จริงแล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กุนซือชาวดัตช์ใช้ “กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง” แบบนี้
เคอร์เคซลงสนามเป็นตัวจริงทุกนัดให้ลิเวอร์พูลตั้งแต่เปิดฤดูกาล แต่เกมที่เทิร์ฟมัวร์วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เขาถูกใบเหลืองจากการพุ่งล้มในเขตโทษตั้งแต่นาที 22 และอีกไม่กี่อึดใจต่อมาก็โดนตักเตือนจากผู้ตัดสินอีกครั้ง
หลังทำฟาวล์ใส่เจดอน แอนโธนี ทำให้สลอตเลือกตัดสินใจยาก นั่นคือเปลี่ยนเขาออกในนาที 36 เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดนไล่ออก โดยส่งแอนดี้ โรเบิร์ตสันลงแทน
การตัดสินใจลักษณะนี้ สลอตเคยทำมาแล้วในฤดูกาลก่อน เมื่อเขาถอดอิบราฮิม่า โกนาเต้
ออกจากสนามในช่วงพักครึ่ง เกมพบวูล์ฟแฮมป์ตัน หลังแนวรับทีมชาติฝรั่งเศสถูกใบเหลืองเร็วและเสี่ยงโดนใบที่สอง
สลอตเคยอธิบายว่า การให้ผู้เล่นที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่ในสนามต่อไปคือการกดดันทั้งนักเตะและผู้ตัดสิน
เพราะทุกการปะทะอาจกลายเป็นโอกาสโดนใบแดงง่ายๆ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อทีมในภาพรวม
ด้านเจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังหงส์แดงที่ทำหน้าที่นักวิจารณ์เกมนี้ทาง Sky Sports ออกโรงตำหนิเคอร์เคซว่า
“การพุ่งล้มในเขตโทษเป็นเรื่องโง่สุดๆ” พร้อมชมผู้ตัดสินไมเคิล โอลิเวอร์ที่จัดการสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันก็ยกย่องสลอตว่าเป็นการบริหารจัดการทีมที่ดี เพราะไม่ปล่อยให้ความเสี่ยงบานปลาย
แม้เป็นการเปลี่ยนตัวที่อาจทำให้เคอร์เคซผิดหวัง แต่การตัดสินใจครั้งนี้ช่วยให้ลิเวอร์พูลรักษาความได้เปรียบ
และยังทำให้เขาพร้อมลงสนามในเกมสำคัญ “เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้” กับเอฟเวอร์ตันในสุดสัปดาห์หน้า